STUDY

ในยุคนี้หลายคนคงคุ้นเคยและชินหูกับคำว่า “คอลลาเจน” (Collagen) ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องดื่ม หรือแม้กระทั่งขนมขบเคี้ยว ยกตัวอย่างเช่น น้ำผลไม้ผสม คอลลาเจน ลูกอมผสมคอลลาเจน หรือ เยลลี่ผสมคอลลาเจน เป็นต้น แล้วเจ้า “คอลลาเจน” มันคืออะไรกันแน่ เรามีคำตอบเกี่ยวกับคอลลาเจนมาบอกกันค่ะ

Collagen คืออะไร?

จริงๆแล้ว “คอลลาเจน” ก็คือโปรตีนที่มีอยู่เต็มไปหมดในร่างกายของมนุษย์เรา ซึ่งคอลลาเจนนี้จะพบได้ใน กล้ามเนื้อ กระดูก ผิวหนัง หลอดเลือด ระบบทางเดินอาหาร และ ข้อต่อต่างๆ ทำหน้าที่เพิ่มความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่อวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย ควบคู่ไปกับการช่วยเป็นตัวทดแทนผิวหนังที่ตายแล้ว ในส่วนของข้อต่อ และเอ็นต่างๆนั้น คอลลาเจนจะทำหน้าที่เหมือนเป็นกาวช่วยให้ต่อกัน และเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คอลลาเจนพบได้ใน กล้ามเนื้อ กระดูก ผิวหนัง หลอดเลือด ระบบทางเดินอาหาร และ ข้อต่อต่างๆ

แล้วทำไมต้องกินคอลลาเจนละ?

คอลลาเจนนั้นเป็นโปรตีนที่ร่ายกายมนุษย์ทุกคนสามารถสร้างขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ ตอนเรายังเด็ก มีอายุน้อย ร่างกายสามารถผลิตได้เองในปริมาณมาก หน้าตาหรือผิวหนังของเราถึงได้ยังดูสวย สดใส แต่เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น 28ปีขึ้นไป ร่างกายกลับผลิตได้น้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งนั่นเองเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด ริ้วรอย ผิวหนังเหี่ยวย่น เกิดอาการปวดข้อ ปวดกระดูก นอกจากนั้นยังมีปัจจัยที่ทำให้คอลลาเจนในร่างกายลดน้อยลง อย่างเช่น การกินอาหารที่มีน้ำตาลเยอะ การสูบบุหรี่ การเผชิญแสงแดดเป็นเวลานาน เป็นต้น การกินคอลลาเจนตอนที่อายุมากจึงเป็นการทดแทนส่วนที่ขาดหายไปจากที่ร่ายกายมนุษย์สร้างได้น้อยลงนั่นเองค่ะ

คอลลาเจนในร่างกายลดน้อยลงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด ริ้วรอย ผิวหนังเหี่ยวย่น เกิดอาการปวดข้อ ปวดกระดูก

กินคอลลาเจนแล้วได้ผลจริงเหรอ?

มีบทความเกี่ยวกับการศึกษาคอลลาเจนจากต่างประเทศซึ่งเป็นเนื้อหาจากเว็บของ โรงพยาบาลรามาธิบดี มาเล่าสู่กันฟังนะค่ะ

“จากการศึกษาของ University of Tuebingen ประเทศเยอรมนี ใน ประชากรที่มีภาวะข้อเสื่อมจำ นวน 2,000 คน พบว่าผู้ที่มีปัญหาจากโรคข้อเสื่อมที่ได้ รับคอลลาเจน (Collagen Hydrolysate) ในปริมาณ 5 กรัมต่อวัน ติดต่อกันเป็น ระยะเวลา 3 เดือน พบว่าคอลลาเจนสามารถช่วยลดการอักเสบและอาการเจ็บปวด จากการเคลื่อนไหวในบริเวณเซลล์กระดูกอ่อนได้”

“ผลงานวิจัยของสถาบันผิวหนังประเทศญี่ปุ่น ในผู้หญิงอายุระหว่าง 35-55 ปี จำนวน 47 คน โดยให้รับประทานคอลลาเจนในลักษณะเครื่องดื่ม ปริมาณ 10 กรัมต่อวัน เป็นระยะเวลา 3 เดือน พบว่าผิวหนังมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ริ้วรอยลดเรือนลง แผลเป็นดูจางลงและมีความชุ่มชื้นเพิ่มมากขึ้น”

เราจะเพิ่มคอลลาเจนในร่างกายเราได้อย่างไร?

เราสามารถเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในร่างกายของเราโดยการทานอาหารที่เปี่ยมด้วยคอลลาเจน โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถพบคอลลาเจนได้ในอาหารจำ พวก ปลาทะเล เนื้อสัตว์ต่างๆ ถั่วหลากสี พืชผักใบเขียว เห็ดชนิดต่างๆ ผักผลไม้สีแดงส้ม เอ็นหมู เอ็นวัว และกระดูกอ่อน ฯลฯ คอลลาเจนมักอยู่ในโปรตีนที่เป็นเนื้อสีขาว เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา เป็นต้น คุณหมอบางท่านแนะนำ ซุปสวยใกล้ตัวก็คือ ต้มยำไก่, ซุปเปอร์ขาไก่ เพราะนอกจากจะเปี่ยมคอลลาเจนแล้ว ยังมีวิตามินซีที่ช่วยดูดซึมคอลลาเจนได้ดีอีกด้วย อาหารประเภทอื่นๆที่อุดมไปด้วยเจ้าคอลลาเจนก็มี เช่น ซุปกระดูก ปลาต่างๆ

ซุปสวยใกล้ตัวก็คือ ต้มยำไก่, ซุปเปอร์ขาไก่

แต่เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของเรา ทำให้ไม่มีเวลาไปนั่งกินซุปกระดูกบักกุ๊ดเต๋ หรือกินซุปเปอร์ขาไก่กันบ่อยนัก การทานอาหารเสริมคอลลาเจนจึงเป็นอีกทางเลือกที่สะดวก ซึ่งปัจจุบันมีคอลลาเจนในรูปแบบผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจำนวนหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นชนิดเม็ดชนิดผงละลายน้ำ ชนิดน้ำ บรรจุขวด รวมถึงประเภทที่ผสมอยู่ในอาหาร และเครื่องดื่มนานาชนิด ทั้งนี้ปริมาณของคอลลาเจนที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด ก็จะมีปริมาณแตกต่างกันออกไป ควรเลือกกินให้เหมาะสมกับร่างกายต้องการ

เราจะเลือกกินผลิตภัณฑ์คอลลาเจนอย่างไร?

เราควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการยอมรับจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และหากต้องเลือกประเภทของคอลลาเจนในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่ยังคงไม่แน่ใจในเรื่องของปริมาณการ รับประทาน ความปลอดภัยและความเหมาะสม ควรปรึกษาแพทย์หรือนักกำหนดอาหารที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ เพื่อการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย เนื่องจากคอลลาเจนนั้นเป็นสารสกัดที่ได้มาจากพืชและ สัตว์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการแพ้และในบางรายอาจมีอาการรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้

องค์การอาหารและยา

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคอลลาเจน ที่พบตามท้องตลาดมักมาจากหนังปลา เกล็ดปลา หนังวัว หนังหมู กระดูกวัวเป็นต้น ตามคำแนะนำขององค์การอาหารและยาแนะนำว่าผู้ที่ต้องการกินคอลลาเจน สามารถกินเป็นอาหารเสริมได้ 5,000-7,000 มิลลิกรัม/วัน แต่ไม่ควรเกิน 10,000 มิลลิกรัม/วัน เพราะจะทำให้เกิดอันตรายได้ ควรเลือกกินที่เป็นคอลลาเจนสายสั้น (Hydrolyzed collagen) เพราะจะทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนสายยาว โดยสังเกตที่ข้างกล่องผลิตภัณฑ์ตอนซื้อ

Hydrolyzed collagen

วิธีรับประทานคอลลาเจนให้ได้ประโยชน์สูงสุด

1. ดื่มน้ำมากๆ: คอลลาเจนนั้นต้องการสารละลายในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย หากร่างกายได้รับน้ำในปริมาณที่ไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะไม่สามารถดูดซึมคอลลาเจนไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้

2. รับประทานวิตามินซี: วิตามินซีมีส่วนช่วยในการดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นเพื่อได้รับประโยชน์สูงสุด เราจึงควรรับประทานคอลลาเจนควบคู่ไปกับอาหารที่มีวิตามินซีสูง

3. รับประทานขณะท้องว่าง: มีงานวิจัยระบุไว้ว่า การเลือกรับประทานคอลลาเจนชนิดเม็ดหรือน้ำนั้น ควรรับประทานตอนเช้าขณะท้องว่าง หรือก่อนรับประทานอาหารเช้า 30นาที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมคอลลาเจนที่ดียิ่งขึ้น

สินค้าของทรูมาลีน?

ถ้าเข้าใจแล้วว่า คอลลาเจนคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร และสนใจจะลองทานดู ลองไปดูสินค้าคอลลาเจนของทรูมาลีนกันนะ ไปต่อกันที่หน้า PRODUCT เลยค่ะ

Ref. ข้อมูลบางส่วนจากรายการ Rama Square ช่วง Better To Know วันที่ 22 มีนาคม 2561 และ เว็บไซต์คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล med.mahidol.ac.th

error: Content is protected !!